ประกาศฟรี

ประกาศฟรี => สินค้า บริการอื่น ๆ => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ 25 ตุลาคม 2025, 15:07:37 pm

หัวข้อ: โรคความดันโลหิตสูง อาการ สาเหตุ วิธีการรักษา แนวทางป้องกัน
เริ่มหัวข้อโดย: siritidaphon ที่ 25 ตุลาคม 2025, 15:07:37 pm
โรคความดันโลหิตสูง อาการ สาเหตุ วิธีการรักษา แนวทางป้องกัน (https://doctorathome.com/disease-conditions/247)

โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) เป็นภาวะที่ความดันในหลอดเลือดแดงสูงกว่าระดับปกติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไตวายเรื้อรัง

นี่คือข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับโรคนี้:

โรคความดันโลหิตสูง: ข้อมูลสำคัญ

1. อาการของโรค (Symptoms)
ความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่เป็น "ภัยเงียบ" โดยที่ผู้ป่วยมากกว่าครึ่ง ไม่มีอาการใด ๆ เลยในระยะเริ่มต้น จนกว่าจะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง แต่ในบางรายที่ความดันสูงมากหรือเริ่มมีภาวะแทรกซ้อน อาจมีอาการดังนี้:

ปวดศีรษะ: โดยเฉพาะบริเวณท้ายทอย มักจะเป็นตอนเช้าหลังตื่นนอน

วิงเวียน/มึนงง: อาจรู้สึกหน้ามืดเมื่อเปลี่ยนท่าทาง

อ่อนเพลีย/เหนื่อยง่ายผิดปกติ

ตาพร่ามัว

อาการอื่น ๆ ที่พบได้น้อย: เลือดกำเดาไหล หรือหูอื้อ

หมายเหตุ: การไม่มีอาการไม่ได้หมายความว่าไม่อันตราย ผู้ที่มีความเสี่ยงจึงควรตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำ


2. สาเหตุของการเกิดโรค (Causes)

โรคความดันโลหิตสูงแบ่งได้เป็น 2 ชนิดหลัก:

1. ความดันโลหิตสูงไม่ทราบสาเหตุ (Primary หรือ Essential Hypertension)
เป็นสาเหตุที่พบมากที่สุด (มากกว่า 90%) ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เกิดจากปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างร่วมกัน:

พันธุกรรม: มีประวัติคนในครอบครัวเป็นความดันโลหิตสูง

อายุ: อายุมากขึ้น (โดยเฉพาะ >60 ปี) ผนังหลอดเลือดจะแข็งตัวและมีความยืดหยุ่นน้อยลง

พฤติกรรม: การบริโภคอาหารเค็ม (โซเดียมสูง), การดื่มแอลกอฮอล์มาก, การสูบบุหรี่, การขาดการออกกำลังกาย, ภาวะเครียด

ภาวะโรค: โรคอ้วน, ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea)


2. ความดันโลหิตสูงที่ทราบสาเหตุ (Secondary Hypertension)

เป็นสาเหตุที่พบได้น้อย (<10%) เกิดจากความผิดปกติของอวัยวะอื่น ๆ หรือยาบางชนิด เช่น:

โรคไต หรือหลอดเลือดที่ไตตีบ

ความผิดปกติของฮอร์โมน (เช่น เนื้องอกต่อมหมวกไต, โรคไทรอยด์)

การใช้ยาบางชนิด (เช่น ยาคุมกำเนิด, ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs บางชนิด)


3. แนวทางการรักษา (Treatment)

เป้าหมายหลักของการรักษาคือ การลดความดันโลหิตให้อยู่ในระดับเป้าหมาย (ส่วนใหญ่น้อยกว่า 130/80 มม.ปรอท) เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง

การรักษามี 2 ส่วนสำคัญ:

แนวทาง                                        รายละเอียด

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม   ใช้ได้กับผู้ป่วยทุกราย และจำเป็นสำหรับผู้ที่เริ่มเป็นหรือกลุ่มเสี่ยง
การใช้ยา                    สำหรับผู้ที่มีความดันสูงเกินเกณฑ์อย่างชัดเจน (มักเป็น >140/90 มม.ปรอท) หรือผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนแล้ว
การรักษาด้วยยา               แพทย์จะพิจารณาจ่ายยาลดความดันโลหิต ซึ่งมีหลายกลุ่ม โดยจะเลือกยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย และมักต้องรับประทานต่อเนื่องตลอดชีวิต เพื่อควบคุมความดันให้อยู่ในระดับปลอดภัย


4. แนวทางป้องกัน (Prevention)

การป้องกันโรคความดันโลหิตสูงทำได้ดีที่สุดด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม:

ควบคุมอาหารเค็ม/โซเดียม: ลดปริมาณโซเดียม ให้น้อยกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน (เทียบเท่าเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา) หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป และเครื่องปรุงรสเค็มจัด

ควบคุมน้ำหนักตัว: รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ (BMI เหมาะสม) การลดน้ำหนักตัวแม้เพียงเล็กน้อยก็ช่วยลดความดันโลหิตได้

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ออกกำลังกายแบบแอโรบิก (เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ ว่ายน้ำ) อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์

งด/ลดแอลกอฮอล์และบุหรี่: การสูบบุหรี่ทำลายหลอดเลือดโดยตรง และการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปเพิ่มความดันโลหิต

จัดการความเครียด: ฝึกการผ่อนคลาย, พักผ่อนให้เพียงพอ, และทำสมาธิ

คำแนะนำที่สำคัญที่สุด: ผู้ที่มีความเสี่ยงหรือมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ควร ตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำ เพื่อค้นพบและรักษาโรคได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนเกิดภาวะแทรกซ้อน